รุ่นที่ 6 (F30, พ.ศ. 2555 - 2562) ของ บีเอ็มดับเบิลยู 3 ซีรีส์

บีเอ็มดับเบิลยู 3 ซีรีส์ รุ่นที่6บีเอ็มดับเบิลยู 3 ซีรีส์ GTบีเอ็มดับเบิลยู 3 ซีรีส์ รุ่นที่6 รุ่นปรับโฉม

รุ่นที่6หรือ F30 สำหรับซีดาน,F31 สำหรับวากอนและGT สำหรับแฮทช์แบค เปิดตัวเมื่อ14 ตุลาคม พ.ศ. 2554 ในเมืองมิวนิก,ประเทศเยอรมัน โดยได้ถ่ายทอดสดผ่านทางfacebookอีกด้วย

ในประเทศไทย มีการเปิดตัวอย่างรวดเร็วฉับไวเกินคาดคิด ในงานแถลงข่าวประจำปีของ BMW Thailand เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2012 ก่อนจะนำไปเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ให้สาธารณชนได้สัมผัส และจับจองกันล่วงหน้า เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2012 ในงาน Bangkok International Motor Show โดยในช่วงแรก มีเฉพาะรุ่น 320d ที่มีรูปแบบ การตกแต่งให้เลือก ถึง 3 สไตล์ ทั้งแบบ Modern Luxury และ Sport รถยนต์ล็อตแรก สั่งเข้ามาจากเยอรมัน ในแบบ CBU แต่รถยนต์ที่ส่งมอบให้ลูกค้า จะผลิตจากโรงงานของ BMW ที่ระยอง โดยใช้ชิ้นส่วนนำเข้า แบบ CKD ต่อมาได้มีการเพิ่มรุ่นย่อยใหม่เป็น รุ่นเบนซิน 320i และ 328i ในปี 2556

BMW ซีรีส์ 3 F30 ได้มีการเปลี่ยนแปลงตามรุ่นปีดังนี้

พ.ศ. 2555

  • มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในงาน Bangkok International Motor Show โดยในช่วงแรก มีเฉพาะรุ่น 320d ที่มีรูปแบบ การตกแต่งให้เลือก ถึง 3 สไตล์ ทั้งแบบ Modern Luxury และ Sport พร้อมเครื่องยนต์ N47D20 184 แรงม้า
  • มีการเปิดตัวรุ่นประกอบในประเทศแบบ CKD ในปลายปีเดียวกัน
  • มีการเพิ่มรุ่นย่อยใหม่เป็น รุ่นเบนซิน 320i และ 328i ด้วยเครื่องเบนซิน N20 พร้อมกันกับ 320d Touring (นำเข้าทั้งคันแบบ CBU) ในงาน Motor Expo 2012

พ.ศ. 2556

  • มีการเพิ่มรุ่นย่อยใหม่เป็นในรุ่นเบนซิน 320i โดยเพิ่มรุ่น base เข้ามา
  • มีการเปิดตัวรุ่น 316i และ Activehybrid 3
  • มีการเปิดตัวรุ่น 328i M Sport เอาใจคนรักรถแบบสปอร์ต
  • มีการเปิดตัว 320d GT ในตัวถัง fastback เป็นครั้งแรก โดยช่วงแรกเป็นรุ่นนำเข้า ต่อมาได้มีการเปิดตัวรุ่นประกอบในประเทศในภายหลัง มีทั้ง 2 รุ่น คือ Luxury และ Sport

พ.ศ. 2557

  • มีการปรับอุปกรณ์ในรุ่น 316i โดยเปลี่ยนล้อ จากขนาด 16 นิ้ว เป็น 17 นิ้ว
  • มีการเปิดตัวรุ่นพิเศษ 325d M Sport เอาใจคนรักดีเซลที่อยากได้มุมมองที่เติมอารมณ์สปอร์ต
  • มีการเปิดตัว 320i/320d M Sport ตามมาในปลายปีเดียวกัน

พ.ศ. 2558

  • มีการตัดรุ่น 316i, 320i base, 320i/320d modern, 325d M Sport และ Activehybrid3 ทิ้งไป
  • มีการปรับอุปกรณ์ในรุ่น luxury โดยมีการตัดอุปกรณ์บางรายการเช่น ตัด comfort access, parking sensor, cruise control, keyless entry และ ระบบนำทาง navigator และได้มีการลดขนาดจอ idrive เป็น 6.5 นิ้ว ส่วนรุ่น sport ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
  • มีการเปิดตัวรุ่น LCI ในงาน Motor Expo 2015 โดย เปิดตัวทั้ง 3 รหัส 320i ซึ่งกลับมาเพิ่มรุ่น base อีกครั้ง, 320d และ 330i ซึ่งเป็นรหัสรุ่นย่อยใหม่ แทน 328i พร้อมเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ B47D20 190bhp ใน 320d และ เครื่องยนต์เบนซิน B48B20A ใน 320i และ B48B20B ใน 330i

พ.ศ. 2559

  • มีการเปิดตัวรุ่น 330e Plug-in hybrid โดยจำหน่ายรุ่นนำเข้าทั้งคันในช่วงแรก พร้อมขายรุ่น M Sport เพียงรุ่นเดียว
  • มีการตัดรุ่น 330i ออกไป โดยถูกแทนที่โดย 330e
  • มีการเปิดตัวรุ่นย่อยใหม่ที่มีราคาน่าจับต้องได้เอาใจคนรักรถดีเซล นั่นคือ 320d Iconic โดยจะได้ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว มีระบบควบคุม ความเร็ว อัตโนมัติ Cruise Control มาให้ด้วย แต่จะตัด Comfort Access / ระบบนำทาง Navigation System – เครื่องเล่น DVD ม่านบังแดดหลังไฟฟ้าออกไป นอกนั้นถือว่า Option ใกล้เคียง กับ 320i เดิม
  • มีการเปิดตัวรุ่น 320d Celebration Edition ผลิตจำนวนจำกัด 100 คัน
  • มีการตัดรุ่น 320i และ 320d รุ่น Luxury/Sport ทั้งหมดออกไป ในปลายปีเดียวกัน โดยจำหน่ายแต่รุ่น 320d Iconic เพียงรุ่นเดียว
  • มีการเปิดตัวรุ่น 330e Plug-in hybrid รุ่นประกอบในประเทศ โดยเพิ่มรุ่นย่อยเป็นรุ่น Luxury

พ.ศ. 2560

  • มีการเปิดตัวรุ่น 318i ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ และ 320d M Performance เครื่องดีเซล ที่มาพร้อมด้วยชุดแต่ง M Performance
  • มีการเปิดตัว 320d GT รุ่น LCI ยังมี 2 รุ่น คือ Luxury และ Sport เหมือนเคย แต่ได้เพิ่มรุ่นย่อยใหม่ M Sport ในปลายปีเดียวกัน
  • มีการเปิดตัวรุ่น 330e M Sport รุ่นประกอบในประเทศ เข้ามาแทนรุ่นนำเข้า
  • มีการปรับอุปกรณ์ในรุ่น 320d Iconic โดยเปลี่ยนหน้าจอ new interface และ สีเบาะ cognac
  • มีการเพิ่มรุ่นย่อยใหม่เป็น 330e Iconic ในงาน Motor Expo 2017 เพื่อเอาใจคนที่ชอบรถ Plug-in hybrid ในราคาที่จับต้องได้

พ.ศ. 2561

  • มีการเพิ่มรุ่นย่อยใหม่เป็น 330e Sport มาแทน Luxury โดยมาในราคาที่ถูกกว่า Luxury แต่ option มากกว่า Iconic โดยลักษณะของตัวรถ ภายนอก และกันชนจะเหมือนกับรุ่น Iconic แต่ได้ล้ออัลลอย 18 นิ้วลาย 5 ก้านคู่มาแทน ภายในได้มีการเพิ่ม กล้องมองหลัง, ระบบ comfort access, ระบบ Parking sensor และมีพวงมาลัย 3 ก้านแบบมาตรฐาน พร้อม Paddleshift มาให้ ขณะที่ตัว Luxury ยังไม่มีมาให้
  • มีการเปิดตัวรุ่น 320d M Sport ในราคาที่ถูกกว่า เพื่อเอาใจคนรักดีเซลที่อยากได้มุมมองที่เติมอารมณ์สปอร์ตแต่มีราคาที่จับต้องได้ โดย option ที่เพิ่มจาก Iconic เป็น ชุดแต่ง M Sport, ช่วงล่าง M Sport, ขอบหน้าต่างสีดำเข้ม Black hi-gloss, comfort access และระบบ Parking sensor
  • มีการตัดรุ่น 320d GT ทั้ง 2 รุ่น คือ Luxury และ Sport ทิ้งไป โดยจำหน่ายแต่รุ่น M Sport เพียงรุ่นย่อยเดียว
  • มีการปรับอุปกรณ์ในรุ่น 320d Iconic อีกครั้ง โดยเพิ่มระบบ BMW ConnectedDrive เหมือนรถรุ่นอืนๆ พร้อมระบบ Remote Services, บริการติดต่อผู้ช่วยส่วนตัว, ระบบ Teleservices และปุ่มโทรออกฉุกเฉิน[3]
  • มีการตัดรุ่น 330e Iconic ออกไป หลังจากเปิดตัว 330e Sport ได้ไม่นาน

พ.ศ. 2562

  • ยุติการจำหน่ายในไทย แต่จะเหลือเพียงรุ่น 320d GT M Sport เท่านั้นที่ยังมีจำหน่ายอยู่
  • มีการนำ 320d GT Luxury กลับมาจำหน่ายอีกครั้ง ในราคา 2.769 ล้านบาท เพิ่มด้วยระบบ Teleservices พร้อมระบบ BMW Connected Drive เหมือน รุ่นอื่นๆ

พ.ศ. 2563

  • มีการตัดรุ่น 320d GT M Sport ทิ้งไป แล้วเหลือเพียง 320d GT Luxury เท่านั้นที่ยังทำตลาดอยู่ แต่เนื่องจากตัว GT ได้ยุติการผลิตในประเทศเยอรมันเป็นที่เรียบร้อยแล้วประกอบกับคนนิยมรถ SUV Crossover กันจำนวนมาก ทำให้คาดว่าตัว GT จะยุติการจำหน่ายในไทยตามตลาดโลกหลังจากนี้[4]

ใกล้เคียง

บีเอ็มดับเบิลยู บีเอ็มดับเบิลยู 3 ซีรีส์ บีเอ็มดับเบิลยู 5 ซีรีส์ บีเอ็มดับเบิลยู 7 ซีรีส์ บีเอ็มดับเบิลยู Z4 บีเอ็มดับเบิลยู เค1600 บีเอ็มดับเบิลยู Z4 (G29) บีเอ็มดับเบิลยู 1 ซีรีส์ บีเอ็มดับเบิลยู อาร์75